ไปกันหลายคนก็เลยสั่งมาหลายอย่าง หน้าตาอาหารเป็นไงบ้างคะ งั้นมาดูกันใกล้ๆเลย
วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552
อาหารฮาลาล จากอ่างศิลาถึงบางแสนฮาเฮ 2
ไปกันหลายคนก็เลยสั่งมาหลายอย่าง หน้าตาอาหารเป็นไงบ้างคะ งั้นมาดูกันใกล้ๆเลย
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
จากอ่างศิลาถึงบางแสนฮาเฮ
ยกโขยงกันทั้งครอบครัวไปเที่ยวอ่างศิลามาค่ะ ออกจากบ้านก็ไม่เช้าเท่าไหร่ ถึงอ่างศิลาก็ไม่เกินเที่ยง จุดมุ่งหมายแรกคือสะพานปลาค่ะ คนเยอะน่าดู แต่ก็น่าตื่นตาตื่นใจกับอาหารทะเลสดๆมากมาย ชะแว๊บสายตาก็ไปสะดุดกับรถเข็นคันนี้ค่ะ เจ้ตุ๋ย มีตราฮาลาลด้วยเลยซื้อหมึกไปให้ร้านนี้เขาย่างให้หน่อย อยากอุดหนุนอ่ะค่ะ เริ่นต้นกิโลกรัมละ 30 บาทค่ะ
ที่ต่อไป ยังไม่เที่ยง เลยไปเที่ยวตลาดเก่าอ่างศิลาก่อน อารมณ์ประมาณตลาดเก่าหลายที่ที่เคยไป คือ มีบ้านเก่า ส่วนร้านค้าแทบไม่ต่างกัน วันที่ไปไม่ใช่เสาร์อาทิตย์เป็นวันหยุดราชการเฉยๆ ร้านค้าเลยยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็โอเคค่ะ
ส่วนอันนี้เรียก "ตึกแดง" พระตำหนักเก่าของ รัชการที่ 4 ค่ะ
หิวแล้วอ่ะ ขึ้นรถขับไปถนนเลียบหาด น่าจะเป็นเส้น 3134 จะเจอร้านนี้ค่ะ
ทักษิณฟาร์ม และ ยะยาห์ซีฟู้ด ร้านอาหารมุสลิมริมถนนก่อนถึงชายหาดบางแสนค่ะ ร้านเดียวกันแหละแต่มี 2 ป้าย บรรยากาศร้านโอเคค่ะ โปร่งๆ โล่งสบาย ที่สำคัญมีที่ละหมาดด้วย บรรยากาศดีสุดๆ ละหมาดหันหน้าออกทะเล ส่วนหน้าตาอาหารจะเป็นอย่างไรนั้น มาฮาเฮต่อกันตอน 2 นะคะ
วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552
อาหารฮาลาล ใน มหาวิทยาลัย
ส่วนห้องละหมาด หรือ ชมรมมุสลิมคาดว่ามี แต่ไม่มีข้อมูลวานน้องๆนักศึกษาที่เรียนที่นั่นแวะมาบอกข้อมูลด้วยนะจ๊ะ
วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เกาะเกร็ด
คราวนี้หายไปนาน แต่ก็กลับมาแล้วค่า ช่วงนี้อยู่ในช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม เลยไม่ได้ไปเที่ยวไหน แต่ก่อนเข้าเดือนรอมฎอนก็แอบไปเที่ยวมาจนได้ คราวนี้ไปต่างจังหวัดค่ะ ไปเที่ยวเกาะค่ะ พูดเหมือนไกล แต่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ นี่เอง
ขนมโบราณก็มีเยอะนะคะ อย่างเช่นขนมดอกจอก ไม่ค่อยได้เห็นที่ไหน ชิมแล้ว อร่อยดีค่ะ ขนมช่อม่วงทั้งสวยทั้งอร่อย
วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ฮาลาล ย่านสำนักงาน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีโอกาสไปเตร็ดเตร่แถวย่านสำนักงาน ผู้คนมากมายเลยค่ะ ความตั้งใจแรก ไหนๆ ก็ไปแถวนั้นแล้ว ว่าจะไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ไทย หลังไปรษณีย์สามเสนสักหน่อย แต่ด้วยเวลาไม่อำนวยเลยอด เอาไว้คราวหน้าจะไม่ยอมให้พลาดเลย
หลังจากความตั้งใจถูกทำลายก็เลยไปเดินเล่นแถวนั้นแทนแต่ก็ไม่ผิดหวังเคยค่ะ กลายเป็นว่าได้มาช็อปกระจายแทน ได้ของกลับบ้านไปมากมาย ก็ย่านนี้มีสำนักงานอยู่หลายแห่ง คนก็มาก ของก็ต้องมีมาขายเยอะเป็นธรรมดา แต่เราไม่ได้ทำงานแถวนั้นเวลาช็อปเลยมากกว่าเขา (ฮ่าๆๆ) ช่วงพักเที่ยงถือเป็นเวลาทองของคนขายของ เพราะพอบ่ายๆก็เริ่มเก็บแล้วค่ะ สินค้าก็มีให้เลือกสรรมากมาย ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ตามแฟชั่น ของใช้กระจุกกระจิก อาหารการกินแทบจะทุกประเภทเลยค่ะ
ส่วนร้านอาหารมุสลิม ที่บังเอิญเดินไปเจอ แต่เสียดายไม่ได้แวะไปรับประทาน อยู่ที่อาคารพหลโยธนเพลส ฝั่งพลาซ่า ชื่อว่า ร้านมาเรียม อยู่ที่ศูนย์อาหารชั้น 3 อาหารก็เป็นประเภท ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ ฯลฯ คราวนี้ไม่ได้ไปทานแต่เอาเป็นว่ารับรู้ถึงการมีอยู่ไปก่อนแล้วกัน ใครผ่านไปผ่านมาแถวนั้นก็แวะไปได้นะคะ
วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
สำเพ็ง...กับ halal food
ส่วนวิธีการไป บ้านเราอยู่แถวรามคำแหง ก็นั่งเรือคลองแสนแสบไปคะ 16 บาท สุดสายที่ผ่านฟ้า (ไม่นิยมเอารถไปค่ะ ที่จอดรถแพง) จากนั้นเดินมาขึ้นรถเมล์ที่ข้างป้อมมหากาฬ สาย 56 ก็จะไปถึงสำเพ็งได้แล้วคะ นั่งรถไปสักพักไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ ถ้ากลัวลงไม่ถูกก็ถามกระเป๋ารถเมล์ หรือสังเกตุที่คนเดินพลุกพล่านให้อนุมานเอาว่าใช่ค่ะ แต่จะให้แน่ถามเขาดีกว่าค่ะ
วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
อาหาร ฮาลาล ที่ 7-11
เมนูวันนี้ที่ขอแนะนำ ไส้กรอก BKP ฮาลาล อีหนึ่งทางเลือกเพื่อดับความหิวโหย ข้อแนะนำก็คือเดินไปที่ตู้แช่ จะเห็นผลิตภัณฑ์ไส้กรอกมากมาย เลือกหยิบที่มีตรา ฮาลาล ตามใจชอบ (เพราะมีหลายอย่าง) ราคาประมาณ 36 บาท ถ้าคิดว่าไม่น่าอิ่มก็เลือก นม มาเคลือบกระเพาะอีกสักหนึ่งรายการ จากนั้นเดินไปที่เคาเตอร์ บอกพนักงานว่า เวฟด้วยค่ะ แค่นี้ก็รอดตายไปอีกมื้อ อ้อถ้าเลือก แบบ ไส้กรอกชิกเก้นแฟรงค์ เขาอาจจะถามว่าหั่นไหมค่ะ/ครับ หลีกเลี่ยงดีกว่าค่ะ เพราะไม่รู้เขาหั่นชนิดไหนมาบ้าง อาจปนเปื้อนได้นะจ๊ะ เขียนไปเขียนมาหิวซะล่ะ ไปซื้อมาทานดีกว่า เพราะอันนี้บอกได้ว่าอร่อยดีค่ะ
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
อาหาร "ฮาลาล" ที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน
ไปมาแล้ว..... ตลาดน้ำในกรุงเทพมหานคร อยู่ที่เขตตลิ่งชัน
ใครจะนึกว่าในกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทยก็มีตลาดน้ำเหมือนกัน มีโอกาสได้ไปตลาดน้ำแห่งนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คนเยอะเหมือนกันคะ เป็นตลาดน้ำที่ไม่ใหญ่มาก คาดว่าคงเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วย เพราะมีกิจกรรมให้นั่งเรือไปชมสวนกล้วยไม้ด้วย น่าเสียดายที่คราวนี้กว่าจะไปถึงก็บ่ายแล้วเลยไม่มีโอกาสได้ไปนั่งเรือชมสวน สอบถามจากเจ้าหน้าที่ บอกว่าใช้เวลาล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมง พอดีหิวเลยขอหา อาหาร ใส่ท้องก่อน กว่าจะทานเสร็จ เม้าท์เสร็จเวลาก็ล่วงเลยมาเย็นจนเกินไป เลยหมดสิทธิ์เที่ยวที่ไหนต่อ วางแผนไว้ว่าคราวหน้าจะไม่พลาดแน่นอนจ้า
มาที่ อาหาร การกินกันบ้าง บนบกก็มีอาหาร ให้เลือกมากมาย ทั้งของคาว ของหวาน แต่ที่หมายตาของเราก็คือ อาหาร ฮาลาล (Halal food) ที่เห็นก็มีขนมมากมายหลายอย่างที่เราทานได้ ส่วนมากก็เป็นขนมไทย ที่มีตรา ฮาลาล หน้าร้าน ขายกุ้ยช่ายทอด เดินมาอีกหน่อยริมน้ำ มีร้านอาหารมากมาย มีอาหารหลายแนว ที่น่าสนใจก็มีปลาช่อนเผาเกลือ อาหารทะเลเผาก็มีมาก เลือกทานได้หลายร้าน แต่ถ้ามองหา อาหาร ฮาลาล (Halal food) แนะนำให้เดินไปทางขวามือ เดินไปริมสุด ใต้สะพานรถไฟ จะพบร้าน อาหาร อิสลาม มีก๋วยเตี๋ยวแกง สลัดแขก (จำได้แค่นี้อ่ะ แต่หน้าจะมีอีก) ใครได้ทานอย่าลืมมเล่าสู่กันฟังเรื่องรสชาดด้วยนะคะ
วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552
อาหาร "ฮาลาล" ที่อัมพวา
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนตลาดน้ำอัมพวา นอกจากการไปล่องเรือชมหิ่งห้อยที่ส่องแสงยามระยิบระยับยามค่ำคืนที่ถือเป็น ไฮไลท์ ของตลาดน้ำอัมพวาแล้ว เรื่องอาหารการกินก็ไม่ควรพลาด เพราะมีให้เลือกสรรหลากหลายประเภท และหลากหลายลำค้า (มาเป็นเรือเลยเรียกลำแทนร้าน) ไม่ว่าจะเป็นผัดไท หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว อาหาร ทะเลเผา และที่ขาดไม่ได้ของขึ้นชื่อถ้ามาที่นี่ต้อง ปลาทูทอด
สำหรับมุสลิม หรือ ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็หาอาหาร ฮาลาล (Halal food) ได้ที่นี่ค่ะ ที่ไปเที่ยวมาเห็น 2 ร้าน (ใครเห็นว่ามีมากกว่านั้นรบกวนแจ้งด้วยนะคะ) ถ้าเป็นร้าน อาหาร ฮาลาล (Halal food) ในเรือ มี 1 ลำ จอดแถวหน้า ร้านกาแฟทางเข้าสวนของมูลนิธิชัยพัฒนา ชื่อ บังสมหวัง-นิอามีนะห์ หอยทอด สุเหร่าคลองแขก 20 บาท ลองมองหาดูค่ะ นิเขาคลุมฮิญาบเห็นชัดเจนว่า อาหาร ฮาลาล (Halal food) มุสลิมแน่
ส่วนร้านที่ 2 อยู่บนบกแถวท่าเรือที่เรานั่งข้ามมาจากที่จอดรถในวัด ลองเดินดูค่ะบอกพิกัดไม่ได้แน่นอน จำได้ว่าอยู่หน้าสถานที่ราชการ อะไรสักอย่าง (สำนักงานเทศบาล ตำบลอัมพวา) ขายอาหาร ฮาลาล (Halal food) ประเภท กระเพาะปลา น้ำขิง น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋
บอกไม่ได้ว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน เพราะปกติทานได้หมด ลองไปทานกันดูนะคะ แล้วมา บอกด้วยแล้วกัน
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ฮาลาล คือ ???
การอนุมัติสิ่งใด หรือการห้ามสิ่งใดใสศาสนาอิสลามเป็นประกาศิตที่มาจากอัลเลาะห์ผู้เป็นเจ้า และมาจากศาสนทูตของพระองค์เท่านั้น ถือเป็นหลักสำคัญที่มุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดโดยไม่ต้องค้นหาเหตุผลการอนุมัติ หรือเหตุผลการห้ามแต่อย่างใด เมื่อพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้แจ้งไว้ เพราะมุสลิมมีความเชื่อมั่นศรัทธาว่าสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าอนุมัติเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ส่วนสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าห้ามเป็นสิ่งที่มีพิษภัยและมีโทษ พระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างมนุษย์ขึ้นมาทราบดีถึงสิ่งที่เป็นและเป็นโทษต่อมนุษย์ พระองค์จึงอนุมัติสิ่งที่เป็นคุณและห้ามสิ่งที่เป็นโทษ
ส่วนเหตุผลที่มนุษย์ค้นพบว่ามีข้อดีในสิ่งที่ศาสนาอนุมัติ และมีข้อเสียในสิ่งที่ศาสนาห้าม โดยพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้แจ้งไว้และได้นำมาอ้างอิงนั้นเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้นไม่ใช่เป็นหลักสำคัญ เพราะเหตุผลที่มนุษย์ค้นพบอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ส่วนประกาศิตของพระผู้เป็นเจ้านั้นเป็นอมตะไม่เปลี่ยนแปลง
ในเมื่ออิสลามเป็นระบอบในการดำเนินชีวิตของมุสลิมชีวิตของมุสลิมจึงผูกพันอยู่กัลป์ศาสนาตั้งแต่เกิดจนตาย การกระทำทุกอย่างของมุสลิมต้องดำเนินอยู่ในกรอบที่ศาสนากำหนดในทุกกรณีทั้งเรื่องความผูกพัน ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า มนุษย์กับมนุษย์ และระหว่างมนุษย์กับสัตว์ มุสลิมต้องมีความเมตตาสงสารสัตว์ การกักขังสัตว์โดยไม่ให้อาหารเป็นเหตุให้ตกนรก การกลั่นแกล้งรังแกสัตว์ จะต้องถูกนำไปใต่สวรต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า การเชือดสัตว์เป็นสิ่งที่ศาสนาอนุมัติให้กระทำได้ภายใต้กรอบที่เชือดเพื่อเป็นอาหาร ไม่กระทำทรมานสัตว์ ต้องเชือดด้วยมีดที่คม ต้องให้สัตว์ล้มลงนอนอย่างดี ขณะเชือดต้องกล่าวนามของพระผู้เป็นเจ้า
เนื้อหา : จากหนังสือฮาลาลและฮารอมในอิสลาม ของเชคยูซุฟ อัลกอรดอวีย์